วันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2552

คู่มือการใช้งานโปรแกรม Easy GIF Animator 4 ส่วนการ ExportFile และ send Email

รูปที่ 1 แสดงหน้าตาของโปรแกรม
เกี่ยวกับโปรแกรม Easy GIF animator เป็นโปรแกรม สำหรับ สร้างและแก้ไขภาพเคลื่อนไหว (Animation) ให้กับ ไฟล์รูปภาพตระกูล GIF ด้วยรูปแบบของโปรแกรมที่ออกแบบมา ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างผลงานได้อย่างง่ายๆ ใส่ลูกเล่น จัดเรียงลำดับภาพ ภาพ (Frame) ก่อนหลัง ฯลฯ อีกมากมาย ทั้งนี้ก็ยังมีการปรับให้เหมาะกับเว็บเพจโดยเฉพาะได้อีกด้วยทำให้งานที่ได้ออกมามีคุณภาพ
จุดเด่นและความสามารถของโปรแกรม
1. สามารถสร้างภาพแอนิเมชันแบบการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ของไฟล์ภาพในตระกูล GIF และทำการบันทึกเป็นภาพเพียงภาพเดียว
2. สามารถสร้าง Banners สำหรับเว็บไซต์ได้อย่างสวยงาม
3. สามารถสร้าง Button ที่มีการเคลื่อนไหวได้
4. สามารถ Export ไปเป็นไฟล์ได้ถึง 3 นามสกุล ทั้ง AVI, SWF และ GIF รวมทั้งยัง
สามารถส่งเมล์ภาพแอนิเมชันที่สร้างขึ้นได้ในโปรแกรมเอง

ขั้นตอนการ Export File และการส่ง E-mail
1. ขั้นตอนแรกเปิดโปรแกรมขึ้นมาเลือกหัวข้อแรก Create New Animation


รูปที่ 2 แสดงหน้าต่างแรกของโปรแกรมเพื่อเลือกการสร้างงานต่าง ๆ

2. จะปรากฏหน้าต่าง Frame Images ขึ้นมาให้ทำการ Add Images เข้ามาเพื่อทำ Animation
จะปรากฏหน้าต่างการสร้าง Animation Wizard มาให้เราดำเนินการสร้างงานทำการปรับแต่งแล้วก็ทำการแก้ไขตามที่ได้มีการนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว

รูปที่ 3 แสดงหน้าต่างการสร้างงาน 1

รูปที่ 4 แสดงหน้าต่างการสร้างงาน 2


รูปที่ 5 แสดงหน้าต่างการสร้างงาน 3

รูปที่ 6 แสดงหน้าต่างการสร้างงาน 4

รูปที่ 7 แสดงหน้าต่างการสร้างงาน 5
รูปที่ 8 แสดงหน้าต่างงานที่สร้างเสร็จแล้ว

3. มาถึงขั้นตอนที่เราจะพูดถึงคือการ Export File ซื่งเราจะทำการ Export File เป็น AVI
โดยให้เลือกที่เมนู File แล้วเลือก Export to AVI จะปรากฏหน้าต่าง Save as ขึ้นมาซึ่งสามารถเซฟไฟล์เป็นไฟล์ แบบ AVI ได้อย่างเดียว

รูปที่ 9 แสดงการเลือกเมนูเพื่อ Export File เป็น AVI

รูปที่ 10 แสดงการ Save เป็นนามสกุล .AVI

4. การเซฟไฟล์ Flash ก็เช่นเดียวกันให้ไปที่เมนู File แล้วเลือก Export to Flash เมื่อเลือก Export to Flash จะปรากฏหน้าจอแรกขึ้นมาซึ่งเราสามารถใส่ลิงค์ไฟล์ Animation ไปยังเว็บไซต์ของเราได้ เมื่อกำหนดแล้วให้คลิกปุ่ม Next



รูปที่ 11 แสดงการเลือกเมนูเพื่อ Export File เป็น .SWF


รูปที่ 12 แสดงหน้าต่างการใส่ชื่อเว็บไซต์

5. เราสามารถกำหนดไฟล์เสียงลงไปในไฟล์ Animation ที่เราได้สร้างเอาไว้ได้ด้วย โดยคลิกที่ปุ่ม Browse แล้วเลือกไฟล์เสียงเข้ามาและสามารถเล่นเพลงดูก่อนได้ จากนั้นคลิก Next


รูปที่ 13 แสดงหน้าต่างการใส่เสียง

6. จะปรากฏหน้าต่าง Save as ขึ้นมาโดยไฟล์ที่เซฟจะมีนามสกุล .swf ได้เพียงอย่างเดียว


รูปที่ 14 แสดงการ Save เป็นนามสกุล .SWF

7. การ Export all Frames เป็นนามสกุล GIF JPG BMP คลิกที่เมนู File แล้วเลือก Export all Frames

รูปที่ 15 แสดงการเลือกเมนูการ Export File เป็น .GIF .JPG .BMP

8. จะปรากฏหน้าต่าง Save as ขึ้นมาให้เรา save โดยไฟล์ที่สามารถ save ได้จะเป็นนามสกุล .gif .jpg .bmp



รูปที่ 16 แสดงหน้าต่างการ Save เป็น .GIF .JPG .BMP

โดยเมื่อเราทำการเซฟไฟล์ โปรแกรมจะทำการเซฟไฟล์รูปภาพทุกภาพที่นำไปสร้างแอนิเมชั่นทั้งหมด


รูปที่ 17 แสดงไฟล์ที่ทำการ Save เรียบร้อยแล้ว
การ Send via Email
1. คลิกที่เมนู File เลือก Send via Email จะปรากฏหน้าต่างดังภาพให้ใส่ชื่อลงไปแล้วคลิกที่ปุ่ม Next



รูปที่ 18 แสดงหน้าต่างการใส่ชื่อผู้รับ

2. ต่อมาจะปรากฏหน้าต่างให้เราใส่ Email Address ให้เราทำการป้อนข้าไปแล้วกด Next



รูปที่ 19 แสดงหน้าต่างการใส่ชื่อ E-mail


3. ต่อมาจะปรากฏหน้าต่าง E-Mail Server ให้เราเลือก Mail Server และ Mail Service จากนั้นคลิก Next


รูปที่ 20 แสดงหน้าต่างการเลือก Mail Server และ Mail Service
4. จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Internet Mail Login จากนั้นให้ใส่ Account Name และ password จากนั้นคลิกที่ Next จากนั้นจะปรากฏหน้าต่างการส่งอีเมล์คล้ายกับโปรแกรม outlook ให้ทำการใส่ e-mail address ของผู้รับและหัวข้อที่จะส่งและข้อความลงไปแล้วกดปุ่ม Send เป็นอันเสร็จสิ้น


รูปที่ 21 แสดงหน้าต่างการส่ง E-mail ขั้นตอนสุดท้าย
เนื้อหาที่อ้างอิงถึงตามลำดับ
บทความเริ่มต้นของเรื่องคือ http://aekalak.blogspot.com/ คู่มือการใช้งานโปรแกรม Easy GIF Animator 4 ส่วนการสร้างภาพ GIF Animation
มีเนื้อหาที่อ้างอิงถึงเรียงตามลำดับ ดังนี้
1. อ้างอิงถึง http://jarun-jun2.blogspot.com/ คู่มือการใช้งานโปรแกรม Easy GIF Animator 4 ส่วนการสร้าง Banner
2. อ้างอิงถึง http://suton-zero2.blogspot.com/ คู่มือการใช้งานโปรแกรม Easy GIF Animator 4 ส่วนการสร้าง Button
3. อ้างอิงถึง http://yuwawut-cis.blogspot.com/ คู่มือการใช้งานโปรแกรม Easy GIF Animator 4 ส่วนการ Export File และการ Send E-mail

วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

การศึกษากับสื่อมัลติมีเดีย

มัลติมีเดีย และเทคโนโลยีมัลติมีเดีย มีความสำคัญกับการเรียนการสอนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเรียนในระบบออนไล์ หรือเรียนผ่านระบบเครือข่าย (e-Learning) เพราะการนำเทคโนโลยีทางด้านนี้มาใช้ เกิดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างมาก ผู้เรียนสามารถโต้ตอบกับระบบได้ และระบบสามารถเก็บข้อมูลสถิติการเรียน การทดสอบ และพัฒนาการของผู้เรียนไว้เป็นข้อมูลได้เช่นกัน นอกจากการเรียนดังกล่าว เทคโนโลยีมัลติมีเดียยังมีความสำคัญกับการให้บริการสารสนเทศในองค์กรต่าง ๆ ซึ่งเกิดผลดีต่อผู้ใช้ และเป็นการสร้างคุณค่าให้กับสารสนเทศนั้น ๆ ให้มีความสำคัญต่อผู้ใช้ เนื่องด้วยการเข้าถึงสารสนเทศนั้น ๆ ทั้งนี้นอกจากประโยชย์ต่าง ๆ ดังกล่าวแล้วมัลติมีเดียยังมีข้อดีอีกมากมายดังนี้
1.เทคโนโลยีด้านสื่อมัลติมีเดียช่วยให้การออกแบบบทเรียน ตอบสนองต่อแนวคิด และทฤษฎีการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งผลโดยตรงต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การวิจัย
ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของสื่อมัลติมีเดียว่า สามารถช่วยเสริมการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นได้
2. สื่อมัลติมีเดียในรูปแบบของซีดีรอม ใช้ง่าย เก็บรักษาง่าย พกพาได้สะดวก และสามารถทำสำเนาได้ง่าย
3. สื่อมัลติมีเดียเป็นสื่อการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองตามศักยภาพ ความต้องการ และความสะดวกของตนเอง สามารถสร้างสถานการณ์จำลอง จำลองประสบการณ์ ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง
4. ในปัจจุบันมีโปรแกรมช่วยสร้างบทเรียน (Authoring Tools) ที่ง่ายต่อการใช้งานทำให้บุคคลที่สนใจทั่วไปสามารถสร้างบทเรียนสื่อมัลติมีเดียใช้เองได้
5. ผู้สอนสามารถใช้สื่อมัลติมีเดียเพื่อสอนเนื้อหาใหม่
เพื่อการฝึกฝน เพื่อเสนอสถานการณ์จำลอง และเพื่อสอนการคิดแก้ปัญหา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้เป็นประการสำคัญ รูปแบบต่างๆ ดังกล่าวนี้จะส่งผลดีต่อการเรียนรู้ วิธีการเรียนรู้ และรูปแบบการคิดหาคำตอบ
6. สื่อมัลติมีเดียช่วยสนับสนุนให้มีสถานที่เรียนไม่จำกัดอยู่เพียงห้องเรียน เท่านั้น ผู้เรียนอาจเรียนรู้ที่บ้าน ที่ห้องสมุด หรือภายใต้สภาพแวดล้อมอื่นๆ ตามเวลาที่ ตนเองต้องการ
7. เทคโนโลยีสื่อมัลติมีเดีย สนับสนุนให้เราสามารถใช้สื่อมัลติมีเดียกับผู้เรียนได้ ทุกระดับอายุ และความรู้ หลักสำคัญอยู่ที่การออกแบบ ให้เหมาะสมกับผู้เรียนเท่านั้น
8. สื่อมัลติมีเดียที่มีคุณภาพ นอกจากจะช่วยให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนของโรงเรียน หรือหน่วยงานแล้ว ความก้าวหน้าของระบบครือข่าย ยังช่วยส่งเสริมให้การใช้สื่อมัลติมีเดียเป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาอื่นๆ อีกด้วย